ข้อควรระวังในการทาเล็บเจลที่ทุกคนควรรู้
การทาเล็บเจลได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม คงทน และเงางามนานหลายสัปดาห์ แต่การใช้เล็บเจลก็มีข้อควรระวังบางประการที่เราควรทราบ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพของเล็บและผิวหนัง
1. การทาเล็บเจลบ่อยเกินไปอาจทำให้เล็บเสียหาย
การทาเล็บเจลเป็นประจำสามารถทำให้เล็บของเรามีความเสี่ยงที่จะสูญเสียความแข็งแรงไป เพราะกระบวนการลอกเล็บเจลหรือการใช้สารเคมีในการล้างเจลอาจทำให้เล็บบางลงและแห้งกร้านได้ นอกจากนี้ หากไม่มีการบำรุงที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการฉีกขาดของเล็บได้
2. การถอดเล็บเจลเองอาจทำให้เล็บเสียหาย
การถอดเล็บเจลออกด้วยตัวเองโดยไม่ใช้วิธีที่ถูกต้อง เช่น การใช้ของมีคมหรือการดึงเจลออกอาจทำให้เล็บข้างใต้ได้รับความเสียหาย เช่น การเกิดรอยแผลหรือการทำให้ผิวเล็บถูกดึงออกไปด้วย วิธีที่ดีที่สุดคือการถอดเล็บเจลด้วยการแช่ในน้ำยาล้างเจลที่มีส่วนผสมของอะซิโตน และให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยทำการถอดเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหาย
3. การใช้แสง UV มากเกินไปอาจเสี่ยงต่อผิวหนัง
การใช้แสง UV หรือแสง LED ในการทำให้เล็บเจลแห้งอาจทำให้ผิวหนังเกิดความเสียหายได้ หากมีการใช้งานแสง UV ในระยะเวลานานหรือบ่อยครั้ง อาจเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยก่อนวัยหรือแม้กระทั่งโรคมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสง UV โดยตรง หรือใช้ครีมกันแดดสำหรับมือก่อนทำการทาเล็บเจล
4. การทาเล็บเจลในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ
การทาเล็บเจลในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดหรือใช้เครื่องมือที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกต้องอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ เช่น เชื้อรา หรือการติดเชื้อแบคทีเรียที่เล็บ ซึ่งจะทำให้เล็บเสียหายและอาจส่งผลต่อสุขภาพของเล็บในระยะยาว
5. การบำรุงเล็บหลังทาเจลสำคัญมาก
หลังจากการทาเล็บเจลแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการบำรุงเล็บ เช่น การใช้ครีมบำรุงเล็บ หรือน้ำมันบำรุงเล็บเพื่อลดความแห้งกร้าน และฟื้นฟูสุขภาพของเล็บหลังการทำเล็บเจล การบำรุงจะช่วยให้เล็บกลับมามีสุขภาพดี และป้องกันการแตกหัก
6. ระมัดระวังในกรณีที่เล็บมีอาการติดเชื้อหรือบาดเจ็บ
หากเล็บมีอาการบาดเจ็บหรืออักเสบ ควรหลีกเลี่ยงการทาเล็บเจลจนกว่าเล็บจะหายดี เนื่องจากการทาเล็บเจลในสภาพที่เล็บไม่แข็งแรงอาจทำให้ปัญหาดังกล่าวรุนแรงขึ้น และทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มเติม
7. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เล็บเจลที่มีคุณภาพและปลอดภัยจากสารเคมีที่อาจเป็นอันตราย เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ (formaldehyde) หรือทูลูอีน (toluene) เพราะสารเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
8. ให้เวลาเล็บพักบ้าง
การให้เล็บพักบ้างหลังจากทาเล็บเจลเป็นเวลานานๆ จะช่วยให้เล็บได้ฟื้นฟูสภาพและแข็งแรงขึ้น ควรให้เวลาสักระยะหนึ่งก่อนที่จะทาเล็บเจลใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาความเสียหายที่เกิดจากการใช้เจลติดต่อกัน
การทาเล็บเจลสามารถทำให้เล็บดูสวยงามและเงางามได้ แต่หากไม่มีการดูแลและใส่ใจอย่างเหมาะสม ก็อาจส่งผลให้เล็บและผิวหนังเกิดความเสียหายได้ ดังนั้น ควรทำตามคำแนะนำและข้อควรระวังในการทาเล็บเจลเพื่อให้เล็บสวยและสุขภาพดีในระยะยาวค่ะ